3 วิธีเช็กประวัติรถมือสองก่อนซื้อ ป้องกันโดนหลอกขาย

 3 วิธีเช็กประวัติรถมือสองก่อนซื้อ ป้องกันโดนหลอกขาย

สล็อตเว็บตรง ทรูวอเลท GBM168 รวมเกมสล็อตออนไลน์กว่า 2,378 ไว้ในเว็บเดียวทั้งค่าย Pocket Game Soft(PG Slot), Joker Gaming(Joker Slot), Pragmatic Play(PP Slot) และอื่นๆ อีกมากมาย

หลักการซื้อรถมือสองที่สำคัญ นอกจากจะต้องดูรถมือสองที่มีสภาพดี ปราศจากการชนหนัก, พลิกคว่ำหรือจมน้ำแล้วนั้น ยังควรตรวจเช็กประวัติเบื้องต้นเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาภายหลัง เช่น รถถูกระงับการใช้งาน, รถถูกโจรกรรม หรือได้มาด้วยวิธีการผิดกฎหมายอื่นๆ

     จึงขอแนะนำ 3 วิธีการเช็กประวัติรถมือสองเพื่อความอุ่นใจมาฝากกัน

1.ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ของตัวรถ

     ก่อนสิ่งอื่นใด นอกเหนือจากการตรวจสอบสภาพตัวรถตามขั้นตอนปกติของการซื้อรถมือสองแล้วนั้น ควรตรวจเช็กเอกสารทางทะเบียนด้วยทุกครั้ง เช่น สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ที่ระบุลำดับผู้ครอบครอง, วันที่ครอบครอง, เลขตัวถัง, เลขเครื่องยนต์, สีตัวถัง ฯลฯ จะต้องตรงกับตัวรถ มีที่มาที่ไปชัดเจน

usedcar_02

2.หลีกเลี่ยงการโอนลอย

     การโอนลอยเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากสะดวกกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย หากเป็นรถที่ซื้อจากเต๊นท์มือสองที่มีชื่อเสียง ไว้ใจได้ ก็คงไม่มีปัญหานัก (เพราะหากมีปัญหาในการโอนขึ้นมาจริงๆ ก็ยังมีหลักฐานชัดเจนเพื่อดำเนินการอื่นต่อไป) แต่กรณีเป็นการซื้อกับผู้ขายโดยตรง หากผู้ขายทราบดีอยู่แล้วว่าการได้มาของรถผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถโอนเป็นชื่อผู้ซื้อได้นั้น ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกลอยแพได้

ดังนั้น การโอนรถจึงควรจับมือไปโอนที่สำนักงานขนส่งทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่ายนั่นเอง

3.ตรวจเช็กประวัติกับขนส่งฯ

     หากมีข้อมูลเบื้องต้นของตัวรถ เช่น เลขทะเบียน, รหัสตัวถัง ฯลฯ สามารถตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานขนส่งในพื้นที่ได้ เพื่อตรวจสอบถึงประวัติการชำระภาษี, การกระทำผิดกฎหมาย หรือการจดทะเบียนไม่ถูกต้อง จะช่วยให้สบายใจได้ว่ารถที่เราซื้อมานั้นขาวสะอาด ไร้ปัญหากวนใจในอนาคตครับ

usedcar_03

     ดังนั้น ก่อนจะซื้อรถมือสองทุกครั้ง ควรใส่ใจตรวจสอบเอกสารสำคัญต่างๆ ควบคู่กันไปด้วยนะครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10 ข้อ กันโง่! เมื่อคิดจะซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง

แนะนำ 5 รถซิตี้คาร์มือสองงบไม่เกิน 200,000 บาท